ประโยชน์ของ รถรับส่งพนักงาน

ประโยชน์ของ รถรับส่งพนักงาน : รถรับส่งพนักงานเป็นสวัสดิการพิเศษหนึ่งของ กิจการ เพื่อช่วยประหยัด ค่าเดินทางของพนักงาน อีกทั้งยังช่วยให้พนักงานเข้างานได้พร้อมกัน เพื่อประโยชน์ในประสิทธิภาพของบุคคลากร ประโยชน์ของ รถรับส่งพนักงาน ทางอ้อมอีกอย่างคือการ พนักงานสามารถเพิ่มความสัมพันธ์กันระหว่างนั่ง รถรับส่งพนักงาน กลับบ้านได้อีกด้วยประโยนช์ของ รถรับส่งพนักงาน เปรียบเทียบกับการซื้อรถพนักงานเองมีหลายประการดังนี้

ค่าใช้จ่าย

หากบริษัทเลือกที่ซื้อมีสินทรัพย์เองนั้น บริษัทจะมีสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น มีความเป็นเจ้าของ สามารถใช้ได้งานรถได้อย่างเต็มที่เต็มเวลา แต่อาจจะเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ ในครั้งแรกที่ซื้อรถในระยะยาวบริษัทจ่ายค่าใช้จ่ายที่อาจต่ำกว่าการว่าจ้าง บริการรถรถรับส่งพนักงาน แต่ค่าใช้จ่ายการซื้อรถนี้อาจไม่สามารถ ใช้เป็นค่าใช้ได้ได้ทั้งหมดเนื่องจาก กฏของสรรพากร นอกจากค่าใช้จ่ายใน การซื้อรถแล้วยังมีค่าใช้จ่ายค่ารถแล้วยังมีค่าใช้จ่าย บำรุงรักษา ซ่อมบำรุง ค่าน้ำมัน ค่าล้างรถ ซึ่งใช้ต้องมีการควบคุมการใช้จ่าย เพื่อไม่ให้เป็นจุดรั่วไหลของเงินสด

แต่หากบริษัท ใช้บริการ รถรับส่งพนักงาน บริษัทสามารถ ทดลองใช้โดยทำสัญญาเป็น ปีได้ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สามารถใช้ได้เต็มจำนวน บริษัทไม่ต้องแบกรักค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา

เมื่อรถเสียมีรถสำรอง

หากบริษัทซื้อรถเองเมื่อรถเสีย บริษัทอาจจะต้องรอระยะเวลาซ่อม  และไม่สามารถบริการรับส่งพนักงานได้ในช่างระยะเวลาหนึ่ง แต่หากใช้บริการ รถรับส่งพนักงาน บริษัทรถรับส่งจะมีรถแทนให้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า แม้ว่าในกรณีฉุกเฉินรถเสียกลาง ทางเพชรวิไลก็มีรถพร้อมถ่ายผู้โดยสารตลอดเวลา

พนักงานขับรถ

หากบริษัท ซื้อพาหนะเองบริษัทต้องสรรหาพนักงานขับรถเองซึ่งอาจจะไม่มีความเชี่ยวชาญทางการขับรถรับส่ง และต้องรับภาระจ่ายค่าจ้างพนักงานแม้จะหยุดสวัสดิการรถรับส่งพนักงาน ต่างกับการใช้บริการรถรับส่งคือทาง หจก. เพชรวิไล ได้สรรหาพนักงานผู้ชำนาญ มีประสบการณ์มากกว่า 5 ปี และได้รับการอบรมทุกปี  และมีการตรวจสอบแอลกอฮอลทุกครั้งก่อนขับขี่ลูกค้าจึงสามารถ มั่นใจถึงประสิทธิภาพการทำงานและความเป็นมืออาชีพได้

อุปกรณ์ความปลอดภัยใน รถรับส่งพนักงาน

นอกจากการขับขี่ตามกฎจราจร การเช็คสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ สามารถสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ปลอดภัยแล้ว รถตู้รับส่งพนักงาน และรุบัสรับส่งพนักงานทุกคันของหจก. เพชรวิไลและบริษัท สาธิตแอร์บัสได้ติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ทันสมัยภายในตัวรถ อุปกรณ์ความปลอดภัยใน รถรับส่งพนักงานได้แก่

  1. เข็มขัดนิรภัยอุปกรณ์ความปลอดภัยอันดับแรกที่ขาดไม่ได้คือ เข็มขัดนิรภัย การคาดเข็มขัดนิรภัยเป็นสิ่งที่ผู้โดยสารอาจจะมองข้าม แต่การคาดเข็มขัดนิรภัยนั้นสามารถช่วยบรรเทาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุได้มากกว่า 40%
  2. ที่ทุบกระจกรถอุปกรณ์ความปลอดภัยอันดับต่อมาคือ ที่ทุบกระจกรถ เป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ผู้โดยสารเมื่อขึ้นรถควรจะมองหา ว่าอยู่ในต่ำแหน่งใดของตัวรถ
  3. ถังดับเพลิงซึ่งเป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตในกรณีฉุกเฉิน เมื่อขึ้นรถแล้วผู้โดยสารควรสำรวจถึงต่ำแหน่งที่วางและควรศึกษาวิธีใช้งาน
  4. GSPรถของบริษัท ทันสมัยด้วยการติดตั้ง GSP สามารถตรวจสอบตำแหน่งที่อยู้ได้บนเว็บไซด์
  5. กล้องเป็น อุปกรณ์ที่มีความสำคัญในยุคปัจจุบัน โดยทางบริษัทได้ติดกล้องหน้า กล้องหลังและกล้องภายในตัวรถเพื่อเสริมความปลอดภัยในระหว่างการเดินทาง

สะดวกสบาย

กฎจราจรเบื้องต้น ที่ควรรู้

กฎจราจรเบื้องต้น ที่ควรรู้ : ทุกวันนี้รถบนท้องถนนเมืองไทยได้เพิ่มขึ้นมากกว่าในอดีต เนื่องจากความสะดวกสบาย ความเป็นส่วนตัวในการใช้รถ และยังเทคโนโลยีที่ทำให้ราคารถต่ำลง เมื่อจำนวนรถเพิ่มขึ้นมาก กฎจราจรจึงมีความสำคัญในการจัดระเบียบรถบนท้องถนนมากขึ้น  ผู้ขับขี่จึงควรความรู้ในกฎจราจร เพื่อสามารถปฏิบัติตามกฎจราจร และเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

รถบัสรับส่งพนักงาน
รถบัสรับส่งพนักงาน

กฎจราจรเบื้องต้นที่ควรรู้ และผู้ขับขี่มักจะมองข้าม มีอะไรบ้างดังนี้

1. การไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

ข้อนี้คนมักมองข้ามบ่อยครั้ง เนื่องจากไม่เห็นถึงความสำคัญของการคาดเข็มขัดนิรภัย แต่รู้หรือไม่ว่าการคาดขัดเข็มนิรภัยนั้นสามารถ ลดผลกระทบในอุบัติเหตุได้ถึงกว่า 40% เลยทีเดียว ในรถยนต์รุ่นใหม่บางรุ่นก็มีสัญญาณเตือนดังให้คาดเข็มขัดนิรภัยก็ถือเป็นนวัตกรรมที่ดีอย่างหนึ่ง ซึ่งหากฝ่าฝืนไม่คาดเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งมี โทษปรับไม่เกิน 500 บาท

 

2. การเลี้ยวโดยไม่เปิดสัญญาณเลี้ยวรถ

การเลี้ยวโดยไม่เปิดสัญญาณเลี้ยวนี้รวมถึงการเปลียนเลน หรือเปลี่ยนช่องจราจร กฎจราจรนั้นกำหนดให้เปิดสัญญาณเพื่อส่งสัญญาณเตือนก่อนจะเลี้ยวหรือเปลี่ยนช่องทาง การให้สัญญาณนี้ยังช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุในกรณีเลี้ยวแบบฉับพลันได้ ซึ่งหากฝ่าฝืนการเปิดไฟเลี้ยวนั้นก็มีโทาปรับไม่เกิน 500 บาท

 

3. การจอดรถขีดขวางการจราจร

การจอดขีดขวางทางนั้นพบได้ทั่วไปบนท้องถนน ซึ่งทำให้รถคันอื่นไม่สามารถเข้าออกได้ แบบนี้มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

 

4. การขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด

ข้อนี้มีผู้ละเมิดกฎค่อนข้างมาก ซึ่งปัจจุบันในถนนบางแห่งจะมีกล้องตรวจจับความเร็วถ่ายรูปรถ ทะเบียน ส่งตรงค่าปรับถึงที่บ้าน ความเร็วที่กฎหมายกำหนดคือ ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อช่วงโมงนอกเขตเทศบาล และ ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเขตเทศบาล โทษของการละเมิดข้อนี้นั้นคือ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท

 

5. การขับรถช้าแต่อยู่ช่องทางขวา 

ช่องทางขวานั้นเป็นเลนสำหรับรถที่วิ่งเร็ว แต่หากรถใดที่ขับช้าแต่ิ่งช่องทางขวา ซึ่งทำให้รถที่มีความเร็วต้องแซงซ้ายจึงสามารถขับผ่านไปได้ ผู้ที่ขับช้าในช่องทางเร็วนั้นมีโทษขับขี่กีดขวางทางจราจรมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท

 

การขับขี่ปลอดภัยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

เป่าแอลกอฮอล

เป่าแอลกอฮอลปัจจุบันจำนวนรถได้เพิ่มขึ้นมาก การจราจรคับคั่งทำให้โอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุเชิงป้องกัน เราจึงควรให้ความสำคัญกับหลักการขับขี่ปลอดภัย

หลักการ การขับขี่ปลอดภัย

  1. การคาดเข็มขัดนิรภัย เป็นเรื่องที่ทุกคนทราบแต่บางครั้งก็อาจจะเผลอลืมกันไป การคาดเข็มขัดนิรภัยนั้น สามารถลดความรุนแรงจากการเกิดอุบัติเหตุทั่วไปได้ 40-50% ลดความรุนแรงจากการบาดเจ็บสาเหตุได้ 43-65% และลดอัตราการเสียชีวิตได้ 40-60%(ข้อมูลจาก สสส.)
  2. ตรวจสภาพรถ สภาพเบรค สภาพไฟอย่างสม่ำเสมอ ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ พร้อมใช้งาน
  3. การให้สัญญาณไฟ ก่อนเปลียนช่องทางทุกครั้ง และต้องมองกระจกทุกครั้งก่อนทำการเปลี่ยนเลน หรือเลี้ยวรถ เพื่อป้องกันจุดบอดของการมองเห็น
  4. ความรู้เรื่องสัญญาณไฟจราจรและการปฏิบัติตามสัญญาณไฟ การเคารพกฎจราจรสามารถช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจจะได้ลงได้
  5. งดการขับสวนทาง ไม่ว่าจะมีรถขับอยู่หรือไม่ เพราะบางครั้งอาจจะมีรถขับมาเร็วและมองไม่เห็นก็เป็นได้
  6. งดการขับขี่บนทางเท้า การขับขี่บนทางเท้านอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อผู้เดินทางเท้าอีกด้วย
  7. ความพร้อมของผู้ขับรถ แม้สภาพรถจะดีเยียมเพียงใด หากผู้ขับไม่สบายหรือ ได้รับยาที่ทำให้ง่วงซึม อันมีผลต่อการขับขี่ ก็สามารถทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นได้
  8. ความเร็วของการขับรถ ไม่ควรเกินกฎหมายกำหนด
  9. ห้ามเสพ สิ่งมึนเมา สิ่่งมึนเมานั้นทำให้การตัดสินใจช้าลง ซึงการตัดสินใจผิดเพียงเสี้ยววินาทีก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
  10. สี่แยก หรือ ทางแยก เมื่อขับผ่านทางแยกควรชะลอความเร็วลง เผื่อรถที่กำลังขับมานั้นมองไม่เห็นรถของเรา หรือสามารถรถในกรณีที่มีรถฝ่าไฟจราจรได้ทันท่วงที
  11. สภาพพื้นผิว ต้องระมัดระวังบริเวณที่ถนน ขรุขระหรือเป็นหลุดเป็นบ่อ ควรชะลอความเร็วลง เพื่อลดความเสี่ยงการพลิกคว่ำ หรือการลื่นถไล

ชะลอความเร็วเมื่อฝนตก เมื่อฝนตกจะทำให้สภาพการมองเห็นลดลง ประกอบกับพื้นถนนที่ลื่น จึงสามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย การขับรถด้วยความเร็วที่ลดลงสามารถลด และเพิ่มความระมัดระวังจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้

วิธีการเลือกใช้รถตู้

รถตู้รับส่งพนักงาน

ก่อนจะถึง วิธีการเลือกรถตู้ เราควรเข้าใจประเภทของรถตู้ก่อน เพื่อให้ช่วยในการเข้าใจมากขึ้น

รถตู้มีกี่ประเภท ประเภทของรถตู้

ปัจจุบันบนท้องถนนมีรถตู้ในบริการมากมาย ทั้งรถโดยโดยสารประจำทางและส่วนบุคคล หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมป้ายทะเบียนรถตู้นั้นมีสีที่ต่างกัน

ความแตกต่างนั้นบงบอกถึงประเภทของรถตู้ตามสีของป้ายทะเบียนได้ดังนี้

1. ป้ายทะเบียนสีฟ้า หมายถึง รถตู้วิ่งทั่วไป

2. ป้ายทะเบียนสีเหลือง เป็นป้ายทะเบียน จะมีทั้งเป็นรถตู้โดยสารแบบประจำทาง และ รถตู้โดยสารแบบไม่ประจำทาง

  1. ป้ายทะเบียนดำ คือรถตู้ใช้ในงานภายในจะมีที่นั่งเท่ากับหรือน้อยกว่า 7 ที่นั่ง

ประเภทของรถตู้ตามที่นั่ง

นอกจากการแบ่งตามสีป้ายทะเบียนแล้ว เราสามารถแบ่งตามลักษณะหรือจำนวนที่นั่งของรถตู้ได้

คือรถตู้VIP และรถตู้ทั่วไป การแบ่งแบบนี้เป็นการแบ่งชนิดของรถตู้ตามคนส่วนมากเรียกซึ่งเป็นการแบ่งอย่างไม่เป็นทางการ หากจะแบ่งอย่างหยาบๆว่ารถไหนVIP หรือไม่นั้นก็สามารถดูจากจำนวนที่นั่งได้ดังนี้:

  1. หากพูดกันถึงความสะดวกสบายคงต้องยกให้เป็นรถตู้ 7 เป็นอันดับแรก โดยรุ่นนี้ส่วนใหญ่การใช้งานจะเป็นรถของผู้บริหาร หรือ รถของครอบครัว มีความสะดวกสบายในการเดินทางระยะทางไกล ในบางรุ่นสามารถหมุนเก้าอี้เข้าหากันได้เพื่อใช้ในการพูดคุยกันในรถ และอาจจะมีทีวีในตัวติดตั้งมากับตัวรถ
  2. รถตู้รุ่นต่อมาที่นิยมให้บริการคือรถตู้ VIP ส่วนมากจะสามารถนั่งได้ 9-10 ที่นั่งโดย เป็นแถวหน้า 2- 3 ที่นั่ง  3 ที่นั่งในอีกสองแถวถัดไป และด้านหน้า 1 ที่นั่ง รวมเป็น 9-10 ที่นั่ง ที่นั่งแต่ละที่นั่งจะสามารถ ปรัปเบาะเอนได้ มีเบาะรองคอ และบางคันจะมีโทรทัศน์ในตัวรถอีกด้วย
  3. รถตู้รุ่นสุดท้ายคือส่วนรถตู้ 12 ที่นั่งและ 14 ที่นั่ง ใช้เป็นรถตู้โดยสารประจำทาง หรือ โดยใช้ภายในองกรณ์ โดยมีที่นั่งแถวละ3 ที่นั่ง4 แถว และ มีที่นั่งคนขับอีก 1-2 ที่นั่งเบาะจะเอนได้เล็กน้อยหรือไม่ได้เลย เก้าอี้ที่เอนไม่ได้เลยเช่นเบาะในแถวสุดท้าย

วิธี การเลือกรถตู้ ทั่วไป

หากถามถึง วิธีการเลือกรถตู้ อย่างไร อย่างง่ายที่สุดคือ ต้องคำนึงถึงจำนวนทีนั่งและความสะดวกสบายของการนั่ง ระยะทางที่เดินทางซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ปัจจัยหนึ่ง เนื่องจากการเดินทางในระยะเวลายาวก็สามารถทำให้ผู้โดยสารปวดเมื่อยได้ จึงจำเป็นต้องพิจารณาถึงจำนวนผู้โดยสาร ระยะทาง เป็นหลัก หากเดินทางไกลก็ควรเลือกรถตู้ที่มีความนั่งสบายเป็นหลัก

มาตราฐานISO9001:2015 – รถรับส่งพนักงาน

มาตราฐาน ISO9001:2015 - รถรับส่งพนักงาน

ISO9001:2015

ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพชรวิไล และบริษัท สาธิตแอร์บัส จำกัดได้เห็นความสำคัญของความปลอดภัยและการมุ่งเน้นการให้บริการรับส่งพนักงาน ที่ดีจึงได้นำมาตราฐานการจัดการองค์กรISO9001:2015 เป็นกรอบการจัดการองกรค์หลัก ซึ่งครอบคลุมถึง Risk Management และ การวางแผนการบริการเชิงปฎิบัติการ โดยระบุความเสี่ยงในการปฏิบัติงานที่อาจจะเกิดขึ้น วางแนวทางแก้ปัญหา กำหนดมาตราฐาน วางแผนการจัดการเชิงปฏิบัติ แผนการการรับมือการแก้ไข  รวมถึงการตรวจสอบผลที่เกิดขึ้นและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ 

 

 

มาตราฐานความปลอดภัยที่ ที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพชรวิไล และบริษัท สาธิตแอร์บัส จำกัด ดำเนินการครอบคลุมถึงส่วน

 – ความปลอดภัยของตัวรถที่ใช้รับส่งพนักงาน

 – ความปลอดภัยในการขับขี่

 – ความปลอดภัยในการโดยสาร

 – ความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับพนักงานขับรถรับส่ง

 – ความปลอดภัยเชิงป้องกันในกรณี ฉุกเฉิน

 

ความปลอดภัยของตัวรถที่ใช้รับส่งพนักงาน

สภาพรถขับรับส่งนั้นเป็นองค์ประกอบสำคัญของการขับขี่ปลอดภัย ซึ่งทางบริษัทได้ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยในสภาพรถอย่างมากคือ บริษัทฯมีทีมงานช่างคอยตรวจสอบสภาพรถ เพื่อซ่อมบำรุงอย่างสม่ำเสมอ ก่อนการชำรุด เช่นการตรวจสภาพเครื่องยนต์และตรวจสอบและเปลี่ยนยางรถ

ตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์สม่ำเสมอ

ความปลอดภัยในการขับขี่

ทั้งรถโดยสารปรับอากาศรับส่ง และรถตู้VIPรับส่งของห้างหุ้นส่วนจำกัด เพชรวิไล และบริษัท สาธิตแอร์บัส จำกัดทุกคัน ได้ติดตั้งเครื่องบันทึกข้อมูลพื้นฐาน (GSP) ตามลักษณะที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดไว้ เช่น 

  • ต้องสามารถทำงานผ่านระบบเครือข่ายคมนาคม สามารถบันทึกและส่งข้อมูลการเดินทางของรถ ในรูปแบบพิกัดบนพื้นโลก โดยมีการคลาดเคลื่อนในแนวราบไม่เกิน 20 เมตร 
  • สามารถบันทึกความอัตราความเร็วในหน่วยไม่เกินกิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถวัดความเร็วของรถได้ในทุก 1 นาที 
  • สามารถบันทึกจำนวนชั่วโมงของผู้ขับรถ โดยมีค่าความละเอียดไม่เกิน 1 นาที
  • สามารถบันทึก วันเวลา และ ชื่อนามสกุลหรือเลขที่ใบอนุญาตผู้ขับรถ ได้
  • GPSต้องมีระบบควบคุมให้ผู้ขับขี่แสดงตนผ่านระบบบ่งชี้ผู้ขับ อาจมีสัญญาณแจ้งเตือนหรือไม่ให้เครื่องยนต์ทำงานหากไม่มีการระบุตัวตน
  • ต้องมีระบบบันทึกข้อมูลการใช้งานของรถ เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง
  • GSP สามารถส่งข้อมูลการใช้งานของรถในลักษณะ ที่เป็น Real Time หรือ สามารถส่งข้อมูลไม่น้อยกว่า 1 ครั้งใน 5 นาที

[ข้อมูลจากกรมขนส่งทางบก]

   โดยบริษัทฯ ได้กำหนดมาตราฐานอัตราความเร็วการขับรถไว้ไม่เกิน 90 กม./ชั่วโมง ตามกฎของกรมขนส่งทางบก และได้ตรวจสอบรายงานความเร็วอย่างสม่ำเสมอ ทุกเดือน หากมีรถที่วิ่งเร็วเกินกำหนดก็จะตักเตือน ให้พนักงานรับทราบ

ขับไม่เกิน 90 กม./ชม.

ความปลอดภัยในการโดยสาร

ผู้โดยสารรถรับส่งควรคาดเข็มขัดตลอดการเดินทาง หากผู้โดยการมีอากาศไม่สบาย ไอจาม ควรใช้ผ้าปิดปากระหว่างการโดยสารบนรถ

วิธีป้องกันไวรัสโคโรน่า
ป้องกันไวรัสโคโรน่า

ความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับพนักงานขับรถรับส่ง

   อนึ่งสภาพรถมีความสำคัญในความปลอดภัยแต่หากขาดพนักงานขับรถที่สามารถไว้วางใจได้ความปลอดภัยในการขับขี่คงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ทางบริษัทฯได้ให้ความใส่ใจในการ รับสมัครพนักงานขับรถบัสรับส่ง และ พนักงานขับรถตู้รับส่ง โดยมีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมและตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน

ตรวจสอบระดับแอลกอลฮอล: ตรวจสอบก่อนเริ่มงาน

ทุกวันก่อนบริการ รับส่งพนักงาน ตั้งแต่เช้ามืดก่อนเริ่มงานรอบเช้า และก่อนเริ่มงานรอบเย็นบริษัทมีการตรวจแอลกอฮอล์โดยการเป่าลมหายใจพนักงานทุกคน เพื่อวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจ เพื่อทำให้มั่นใจในประสิทธิของร่างกายในการขับขี่

 

ตรวจเช็คสุขภาพและสารเสพย์ติด:

บริษัทฯมีการตรวจสุขภาพประจำปีพนักงานขับรถเพื่อตรวจเช็คโรคติดต่อทางลมหายใจ

และมีการตรวจสอบสารเสพย์ติดพนักงานขับรถรับส่งเดือนละ 2 ครั้งโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

 

ในด้านความรู้: การอบรม

บริษัทฯมีการการอบรมด้านความปลอดภัยให้แก่พนักงานขับรถปีละ 2 ครั้ง เพื่อเพิ่มพูนความรู้เชิงป้องกันในการขับขี่บนท้องถนน

ความปลอดภัยเชิงป้องกันในกรณี ฉุกเฉิน

บริษัทฯ ได้ระบุความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น และ วางแนวทางการรับมือหากมีกรณีฉุกเฉินเกิดขึ้น เช่น รถเสียขณะให้บริการรับส่ง บริษัทฯได้จัดการให้มีรถและคนขับสำรองเตรียมพร้อมเพื่อถ่ายผู้โดยสารโดยทันที 

 

นอกจากนี้ยังมีการฝึกพนักงานว่าต้องปฏิบัติอย่างไรเมื่อเกิดกรณีฉุกเฉินต่างๆ

วิธีป้องกันไวรัสโคโรน่าบนรถรับส่ง

วิธีป้องกันไวรัสโคโรน่า
แม้ว่าประเทศไทยจะตรวจพบผู้ป่วยเชื้อไวรัสจำนวนไม่มาก แต่การป้องกันไว้ก่อนแก้เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ ทางห้างหุ้นส่วนจำกัด เพชรวิไลและ บริษัท สาธิตแอร์บัส ได้เห็นความสำคัญของการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า บนรถรับส่งพนักงาน จึงได้วางแผนป้องกันการไวรัสโคโรน่า โดย  
  1. การทำความสะอาดภายในตัวรถ ทำความสะอาดเบาะและ อุปกรณ์ภายในตัวรถด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ก่อนและหลังปฏิบัติงานรับส่งทุกรอบ
  2. การวัดอุณหภูมิร่างกายของพนักงาน วัดอุณหภูมิของพนักงานก่อนเริ่มงานบริการขับรถรับส่งเพื่อตรวจกรอง
  3. การใช้ผ้าปิดปาก กำหนดให้พนักงานขับรถสวมใส่ผ้าปิดปากตลอดการปฏิบัติงาน   และในส่วนของผู้โดยสาร ผู้โดยสารควรสวมใส่ผ้าปิดปาก ขณะอยู่บนรถหรืออยู่ในชุมชน
(หมายเหตุ เนื่องจากหจก.เพชรวิไล ไม่ใช้รถเวียน หรือ รถร่วม จึงเป็นการลดความเสี่ยงในการติดต่อไวรัสโคโรน่า ได้ระดับหนึ่ง)  
วิธีป้องกัน โคโรน่าไวรัส โควิด-19